วันอังคารที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2555
วันอาทิตย์ที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2555
วันจันทร์ที่ 4 มิถุนายน พ.ศ. 2555
Risk Associated with investing in bonds
ความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนในตราสารหนี้ ประกอบด้วย1.Interest rate risk
2.call and prepayment risk
3.yield curve risk
4.reinvestment risk
5.credit risk
6.liquidity risk
7.exchange-rate risk
8.volatility risk
9.inflation risk
10.even risk;
11.soverign risk
เนื่องจากราคาของตราสารหนี้มีความผันผวนกับอัตราดอกเบี้ยในตลาด ความเสี่ยงที่นักลงทุนต้องเผชิญคือราคาของตราสารหนี้ในพอร์ตโฟลิโอจะลดลง ถ้า อัตตราดอกเบี้ยในตลาดเพิ่มขึ้น ความเสี่ยงที่เรียกว่า ความเสี่ยงจากอัตราดอกเบี้ย (Interest rate risk) และเป็นความเสี่ยงหลักที่นักลงทุนต้องเผชิญในตลาดตราสารหนี้
1.1เหตุผลสำหรับความสัมพันธ์แบบผกผันระหว่าง การเปลี่ยนแปลงในอัตราดอกเบี้ยและราคา
เหตุผลสำหรับความสัมพันธ์แบบผกผันระหว่าง การเปลี่ยนแปลงในอัตราดอกเบี้ยและราคา (หรือการเปลี่ยนแปลง yield ในตลาด) เป็นดังนี้ สมมตินักลงทุน A ซื้อบอนด์ที่ Coupon 6% อายุ 20 ปีที่ราคาพาร์เท่ากับ 100$ ดังนั้น yield สำหรับบอนด์คือ 6% สมมติว่าหลังจากที่ซื้อบอนด์นี้มีสองสิ่งเกิดขึ้น หนึ่ง อัตราดอกเบี้ยในตลาดเพิ่มขึ้นเป็น 6.5% ดังนั้นถ้าผู้ออกบอนด์ต้องการจะขายบอนด์ที่ราคาพาร์ จะต้องให้ Coupon rate ที่ 6.5% เพื่อดึงดูดให้นักลงทุนซื้อบอนด์ สองสมมตินักลงทุน A ต้องการขายบอนด์ที่มี Coupon rate เท่ากับ 6% ในการพยายามที่จะขายตราสารหนี้ นักลงทุน A จะไม่พบนักลงทุนที่ต้องการที่จะจ่ายเงินซื้อบอนด์ที่ราคาพาร์กับ Coupon rate 6% เหตุผลคือนักลงทุนที่ต้องการซื้อบอนด์นี้จะไปซื้อบอนด์ที่มีอายุ 20 ปี กับ Coupon rate ที่เพิ่มขึ้นอีก 50 basis point เป็น 6.5% ซึ่งให้ผลตอบแทนสูงกว่า
อะไรคือสิ่งที่นักลงทุนจะต้องทำ นักลงทุนไม่สามารถบังคับให้ผู้ออกเปลี่ยน coupon rate ไปเป็น 6.5% ได้ หรือนักลงทุนไม่สามารถบังคับให้ผู้ออกลดระยะเวลาครบกำหนดของบอนด์เพื่อให้นักลงทุนใหม่เต็มใจยอมรับ coupon rate 6% สิ่งเดียวที่นักลงทึนจะทำได้คือ การปรับราคาของบอนด์เป็นราคาใหม่เพื่อให้ผู้ซื้อตระหนักถึง yield 6.5% นั่นหมายความว่าราคาควรจะมีการปรับลดลงต่ำกว่าราคาพาร์ นั่นคือราคาใหม่จะเป็น 94.4479$ ข้อสมมติฐานนี้เกิดขึ้นที่ราคาเริ่มต้นของมูลค่าพาร์ เมื่ออัตราดอกเบี้ยในตลาดเพิ่มขึ้นจะทำให้ราคาบอนด์ลดลงทันที
สรุปความสัมพันธ์ได้ดังนี้
1.บอนด์ซื้อขายที่ราคาพาร์เมื่อ coupon rate = yield ตลาด นั่นคือ
Coupon rate = Yield require by market -> Price = Par value
2.บอนด์จะซื้อขายต่ำกว่าราคาพาร์ (ขายที่ Discount) หรือ สูงกว่าราคาพาร์ (ขายที่ Premium) ถ้า Coupon rate ไม่เท่ากับ yield ของตลาด
Coupon rate < Yield require by market -> Price < Par value (Discount)
Coupon rate > Yield require by market -> Price > Par value (Premium)
3.ราคาของบอนด์เปลี่ยนแปลงในทิศทางตรงกันข้ามกับอัตราดอกเบี้ย ดังนั้นความสัมพันธ์ของอัตราดอกเบี้ยที่เปลี่ยนแปลงไว้ดังนี้
ถ้า อัตราดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น -> ราคาบอนด์จะลดลง
ถ้า อัตราดอกเบี้ยลดลง -> ราคาบอนด์จะเพิ่มขึ้น
2.1 ผลกระทบของ Maturity
ปัจจัยอื่นๆ คงที่ บอนด์ที่มี Maturity มาก ราคาของบอนด์จะมีความอ่อนไหวต่อการเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ยมาก ตัวอย่างเช่น เรารู้ว่ามีบอนด์ อายุ 20ปี coupon rate 6% ขายที่ yield 6% ถ้า yield ที่นักลงทุนต้องการเพิ่มขึ้นเป็น 6.5% ราคาบอนด์จะลดลงจาก 100$ เป็น 94.4479$ ราคาลดลง 5.55% ในทำนองเดียวกัน บอนด์อายุ 5 ปีมี coupon rate 6% ขายที่ yield 6% ที่ราคาเท่ากับ 100 ถ้า yield ที่นักลงทุนต้องการเพิ่มขึ้นจาก 6% เป็น 6.5% ราคาบอนด์จะลดลงเหลือ 97.8944 ราคาบอนด์ลดลง 2.11%
2.2 ผลกระทบของ Coupon rate
ถ้าให้คุณสมบัติของบอนด์อย่างอื่นคงที่ บอนด์ที่มี coupon rate ต่ำกว่าจะมีความอ่อนไหวของราคาต่อการเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ยมากกว่า
2.call and prepayment risk
3.yield curve risk
4.reinvestment risk
5.credit risk
6.liquidity risk
7.exchange-rate risk
8.volatility risk
9.inflation risk
10.even risk;
11.soverign risk
1.Interest rate risk
ราคาของตราสารหนี้แต่ละประเภทจะเปลี่ยนแปลงในทิศทางตรงกันข้ามกับการเปลี่ยนแปลงของอัตราดอกเบี้ยหรือ yield นั่นคือ ถ้าอัตราดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น ราคาของตราสารหนี้จะลดลง เมื่ออัตราดอกเบี้ยลดลง ราคาของตราสารหนี้จะเพิ่มขึ้น ตัวอย่างเช่น พิจารณาตราสารหนี้อายุ 20 ปี Coupon rate 6% ถ้า yield ที่นักลงทุนต้องการเพื่อซื้อ bond คือ 6% ราคาของตราสารหนี้จะเท่ากับ 100$ อย่างไรก็ตาม ถ้า yield ที่ต้องการเพิ่มขึ้นเป็น 6.5% ราคาของตราสารหนี้จะลดลงเป็น 94.4479$ ดังนั้น สำหรับ yield ที่เพิ่มขึ้น 50 basis point ราคาตราสารหนี้จะลดลง 5.55% ถ้า yield ลดลงจาก 6% เป็น 5.5% ราคาตราสารหนี้จะเพิ่มขึ้น 6.02% เป็น 106.0195$เนื่องจากราคาของตราสารหนี้มีความผันผวนกับอัตราดอกเบี้ยในตลาด ความเสี่ยงที่นักลงทุนต้องเผชิญคือราคาของตราสารหนี้ในพอร์ตโฟลิโอจะลดลง ถ้า อัตตราดอกเบี้ยในตลาดเพิ่มขึ้น ความเสี่ยงที่เรียกว่า ความเสี่ยงจากอัตราดอกเบี้ย (Interest rate risk) และเป็นความเสี่ยงหลักที่นักลงทุนต้องเผชิญในตลาดตราสารหนี้
1.1เหตุผลสำหรับความสัมพันธ์แบบผกผันระหว่าง การเปลี่ยนแปลงในอัตราดอกเบี้ยและราคา
เหตุผลสำหรับความสัมพันธ์แบบผกผันระหว่าง การเปลี่ยนแปลงในอัตราดอกเบี้ยและราคา (หรือการเปลี่ยนแปลง yield ในตลาด) เป็นดังนี้ สมมตินักลงทุน A ซื้อบอนด์ที่ Coupon 6% อายุ 20 ปีที่ราคาพาร์เท่ากับ 100$ ดังนั้น yield สำหรับบอนด์คือ 6% สมมติว่าหลังจากที่ซื้อบอนด์นี้มีสองสิ่งเกิดขึ้น หนึ่ง อัตราดอกเบี้ยในตลาดเพิ่มขึ้นเป็น 6.5% ดังนั้นถ้าผู้ออกบอนด์ต้องการจะขายบอนด์ที่ราคาพาร์ จะต้องให้ Coupon rate ที่ 6.5% เพื่อดึงดูดให้นักลงทุนซื้อบอนด์ สองสมมตินักลงทุน A ต้องการขายบอนด์ที่มี Coupon rate เท่ากับ 6% ในการพยายามที่จะขายตราสารหนี้ นักลงทุน A จะไม่พบนักลงทุนที่ต้องการที่จะจ่ายเงินซื้อบอนด์ที่ราคาพาร์กับ Coupon rate 6% เหตุผลคือนักลงทุนที่ต้องการซื้อบอนด์นี้จะไปซื้อบอนด์ที่มีอายุ 20 ปี กับ Coupon rate ที่เพิ่มขึ้นอีก 50 basis point เป็น 6.5% ซึ่งให้ผลตอบแทนสูงกว่า
อะไรคือสิ่งที่นักลงทุนจะต้องทำ นักลงทุนไม่สามารถบังคับให้ผู้ออกเปลี่ยน coupon rate ไปเป็น 6.5% ได้ หรือนักลงทุนไม่สามารถบังคับให้ผู้ออกลดระยะเวลาครบกำหนดของบอนด์เพื่อให้นักลงทุนใหม่เต็มใจยอมรับ coupon rate 6% สิ่งเดียวที่นักลงทึนจะทำได้คือ การปรับราคาของบอนด์เป็นราคาใหม่เพื่อให้ผู้ซื้อตระหนักถึง yield 6.5% นั่นหมายความว่าราคาควรจะมีการปรับลดลงต่ำกว่าราคาพาร์ นั่นคือราคาใหม่จะเป็น 94.4479$ ข้อสมมติฐานนี้เกิดขึ้นที่ราคาเริ่มต้นของมูลค่าพาร์ เมื่ออัตราดอกเบี้ยในตลาดเพิ่มขึ้นจะทำให้ราคาบอนด์ลดลงทันที
สรุปความสัมพันธ์ได้ดังนี้
1.บอนด์ซื้อขายที่ราคาพาร์เมื่อ coupon rate = yield ตลาด นั่นคือ
Coupon rate = Yield require by market -> Price = Par value
2.บอนด์จะซื้อขายต่ำกว่าราคาพาร์ (ขายที่ Discount) หรือ สูงกว่าราคาพาร์ (ขายที่ Premium) ถ้า Coupon rate ไม่เท่ากับ yield ของตลาด
Coupon rate < Yield require by market -> Price < Par value (Discount)
Coupon rate > Yield require by market -> Price > Par value (Premium)
3.ราคาของบอนด์เปลี่ยนแปลงในทิศทางตรงกันข้ามกับอัตราดอกเบี้ย ดังนั้นความสัมพันธ์ของอัตราดอกเบี้ยที่เปลี่ยนแปลงไว้ดังนี้
ถ้า อัตราดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น -> ราคาบอนด์จะลดลง
ถ้า อัตราดอกเบี้ยลดลง -> ราคาบอนด์จะเพิ่มขึ้น
2.คุณสมบัติของบอนด์ที่มีผลกระทบต่อความเสี่ยงอัตราดอกเบี้ย
ราคาของบอนด์มีความอ่อนไหวต่อการเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ยในตลาด ขึ้นอยู่กับคุณสมบัติต่างๆของตราสารหนี้ เช่น maturity, coupin rate, และ embedded option (สิทธิต่างๆที่อยู่ในตราสารหนี้) เราจะดูคุณสมบัติเหล่านี้ในรายละเอียดการวัดความเสี่ยงของอัตราดอกเบี้ย2.1 ผลกระทบของ Maturity
ปัจจัยอื่นๆ คงที่ บอนด์ที่มี Maturity มาก ราคาของบอนด์จะมีความอ่อนไหวต่อการเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ยมาก ตัวอย่างเช่น เรารู้ว่ามีบอนด์ อายุ 20ปี coupon rate 6% ขายที่ yield 6% ถ้า yield ที่นักลงทุนต้องการเพิ่มขึ้นเป็น 6.5% ราคาบอนด์จะลดลงจาก 100$ เป็น 94.4479$ ราคาลดลง 5.55% ในทำนองเดียวกัน บอนด์อายุ 5 ปีมี coupon rate 6% ขายที่ yield 6% ที่ราคาเท่ากับ 100 ถ้า yield ที่นักลงทุนต้องการเพิ่มขึ้นจาก 6% เป็น 6.5% ราคาบอนด์จะลดลงเหลือ 97.8944 ราคาบอนด์ลดลง 2.11%
2.2 ผลกระทบของ Coupon rate
ถ้าให้คุณสมบัติของบอนด์อย่างอื่นคงที่ บอนด์ที่มี coupon rate ต่ำกว่าจะมีความอ่อนไหวของราคาต่อการเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ยมากกว่า
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)